รัฐบาลเตรียมแต่ง เพลง อย่าโอน เพื่อให้ความรู้ประชาชนในการเตือนสติและสร้างภูมิคุ้มกัน จากแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ระบาดหวังตบทรัพย์ประชาชนอย่างหนัก นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเหล่าศิลปิน ดารา เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจการป้องกันภัยคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับประชาชน
โดยการจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ในบทเพลง “อย่าโอน” เป็นสื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ซึ่งเป็นเนื้อเพลงที่จดจำได้ง่าย ติดหู ไว้ใช้เตือนสติ เตือนใจ และสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากรายงานพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์กำลังระบาดหนักมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในวงกว้าง มีการร้องเรียนจากหลายช่องทางถึงปัญหาดังกล่าว ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานเร่งติดตามแก้ไข และให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวง ใช้การประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้เข้าใจง่าย เพื่อให้เกิดการรู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรกลุ่มนี้ พร้อมขอบคุณและชื่นชมกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเหล่าศิลปินดารา นักร้อง ที่ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจการป้องกันภัยคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่มีความปลอดภัยให้กับประชาชนผ่านบทเพลง “อย่าโอน” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีที่ประชาชนฟังแล้วจดจำได้ง่าย สามารถกระตุ้นเตือนให้ประชาชนไม่ไปหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาหลอกลวง โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้สอบถาม นางสาวรัศมี สีตลวรางค์ ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ประพันธ์คำร้อง เพลง “อย่าโอน” ว่ามีแนวคิดที่จะแต่งเพลงอื่นอีกไหม ซึ่งนางสาวรัศมีกล่าวว่า มีแนวคิดที่จะแต่งเพลงเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อกระตุ้นเตือนคนในสังคมถึงพิษภัยยาเสพติด และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญด้วย
ส่วนประเด็นที่อยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นเป็นเรื่องของผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ, สินค้าแพง, ทุจริต คอรัปชั่น, การแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน และ การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง อนุมัติโครงการต่างๆ ตามลำดับ
เพื่อเป็นการประเมินมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคโควิด-19 ในโรงเรียน รวมถึงสถานการณ์เตียงและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยจะมีอธิบดีกรมอนามัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และอธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมประชุมด้วย
‘อนุทิน’ ประกาศลั่นวัคซีนพอ วอน ผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ก่อนสงกรานต์
อนุทิน เปิดเผยความพร้อมรับมือสถานการณ์โควิดก่อนสงกรานต์ วอน ผู้สูงอายุฉีดวัคซีน ก่อนเทศกาล เพื่อลดอาการป่วยหรือเสียชีวิต หากติดโควิด
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ว่า ตนได้มอบหมายให้ กรมควบคุมโรคประสานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) รณรงค์นำผู้สูงอายุอีก 2.1 ล้านคนที่ยังไม่รับวัคซีนให้เข้ามารับโดยเร็ว เพราะเป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากเราต้องการผ่านสงกรานต์ไปด้วยดี ไม่เกิดความสูญเสีย
การฉีดวัคซีนจะต้องใช้ระยะเวลา ทั้งเข็ม 1 และ 2 และเวลาที่ต้องสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์นี้ ขอให้ลูกหลานทุกท่านมารับวัคซีน สธ.ก็จะมีการนำวัคซีนใส่ตู้เย็นพกพาที่ได้รับบริจาคจากรัฐบาลญี่ปุ่นร่วมกับยูนิเซฟ นำไปฉีดให้ถึงบ้านด้วย
“ส่วนผู้ที่จะเดินทางกลับบ้าน ก่อนเดินทางขอให้แยกตัวเอง ไม่เข้าพื้นที่เสี่ยง ทำกิจกรรมเสี่ยง ปาร์ตี้ ถ้าให้ดีก็เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. ทั้งนี้ เพื่อตัวท่านเอง เพราะไม่ใช่กฎหมาย บังคับไม่ได้ แต่หากเราเป็นห่วงผู้ใหญ่ที่รักของเรา ก็ขอให้ระมัดระวังมากขึ้น” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าจะกำหนดเป้าหมายการฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุอีก 2.1 ล้านคน ก่อนเทศกาลสงกรานต์อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนและเจ้าหน้าที่เรามีพร้อม ตอนนี้ที่ไม่พร้อมคือผู้ที่ยังไม่รับวัคซีน เราก็ใช้กลไก อสม.ให้ไปรณรงค์ ขอผู้นำศาสนาได้ช่วยรับรองความปลอดภัยวัคซีน
เพราะหากไม่ฉีดวัคซีน แล้วติดเชื้อร่วมกับโรคร้ายแรงอื่น แม้เราจะมียาก็เอาไม่อยู่ เราจึงต้องมีวัคซีนนำไปก่อน ขณะที่ ยาเราก็เตรียมไว้หมดทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ และกรมการแพทย์ก็กำลังจะซื้อแพกซ์โลวิด ดังนั้นการรักษามีครบ แต่เราป้องกันได้ก็อยากให้เราป้องกัน
นายอนุทินกล่าวว่า “ด้วยการบริหารจัดการวัคซีน ทำให้วันนี้เรามีวัคซีนที่มากเพียงพอ จนเราสามารถนำมาเป็นบูสเตอร์โดสได้ เราก็ควรใช้วัคซีนเหล่านี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต อย่างไรวัคซีนก็มีประโยชน์”
ทั้งนี้ กทม.ได้รับสำเนาสัญญาการจ้างเดินรถพร้อมกับส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอความเห็นต่อการเปิดเผยสัญญาดังกล่าว อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ปี 2540 จะติดขัดด้านข้อกฎหมายหรือไม่ หากอัยการสูงสุดแจ้งว่าสามารถกระทำได้ กทม.จะนำสัญญาเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์ กรุงเทพมหานครทันที
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป